สัตว์น้ำ: 2015

18 อันดับ สัตว์ใต้ทะเลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา

วันนี้ผมได้นำเกร็ดความรู้ มาฝากครับ ซึ่งว่าด้วยเรื่อง18 อันดับ สัตว์ใต้ทะเลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา ติดตามกันได้เลย ^______________^

1.Blue Whale (วาฬสีน้ำเงิน)

มีความยาวมากสุดถึง 30 เมตร หนักมากสุด 200 ตัน ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ ในช่วงหน้าร้อน วาฬสีน้ำเงินต้องกินอาหารจำพวกเคย หรือแพลงตอนที่คล้ายกุ้งมากถึง 40 ล้านตัวต่อวันเลยทีเดียว โดยในภาพด้านซ้ายคือตัวมันจากด้านบน และด้านขวาคือกะโหลกนั่นเอง

2.ปลาหมึกยักษ์

ถือเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ที่ใหญ่สุดที่เคยพบคือยาว 18 เมตร หนักราว 900 กิโลกรัม

3.Giant Isopod

เจ้าตัว Isopod ยักษ์นี้มันเป็นญาติกับพวกกุ้งและปู มีน้ำหนักมากสุดอยู่ที่ 1.7 กิโลกรัม และยาว 30 นิ้วโดยประมาณ

4.Fin Whale (วาฬฟิน)

ถือว่าใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Blue whale เลยทีเดียวกับตัวนี้ โดยโตเต็มที่จะยางถึง 27.3 เมตร และหนัก 82 ตันเลยทีเดียว

5.Giant Pacific Octopus

ปลาหมึกพันธุ์นี้มีอายุยืนกว่า และใหญ่กว่าปลาหมึกยักษ์พันธุ์อื่นๆ โดยจะยาวสูงสุดถึง 9.1 เมตร และหนัก 272 กิโลกรัมเลยทีเดียว

6.Giant Oceanic Manta Ray

ถือเป็นพันธุ์ปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว โดยมีความกว้างมากสุด 9 เมตร และมีอายุยาวนานได้ถึง 20 ปี

7.Southern Elephant Seal

ถือเป็นแมวน้ำที่ใหญ่ที่สุดแล้วกับ Southern elephant seal ตัวผู้อาจยาวถึง 6 เมตร หนักกว่า 4,000 กิโลกรัม แต่ที่เรียกว่า Elephant seals ไม่ใช่เพราะมันตัวใหญ่หรอกนะ แต่เพราะมันมีจมูกคล้ายงวงช้างต่างหาก

8.Sperm Whale

ตัวผู้ที่โตเต็มที่จะยาวถึง 20.5 เมตร และมีหัวที่สูงคิดเป็น 1/3 ของความยาวเลยทีเดียว จุดเด่นของมันคือมันสามารถดำน้ำลงไปได้ลึกถึง

7,380 ฟุต เพื่อหาปลาหมึกมาทานนั่นเอง

9.Giant Oarfish

มันเริ่มจากการเป็นปลาตัวเล็กๆ แต่พอมันโต มันสามารถเป็นปลามีกระดูกที่ยาวที่สุดได้ ซึ่งยาวได้มากถึง 11 เมตร โดยในภาพด้านล่างคือ Oarfish ที่พบที่สหรัฐอเมริกาเมื่อกันยายน 1996 มีความยาว 7 เมตร

10.Giant Tube Worm

หนอนยักษ์พวกนี้สามารถยาวได้ถึง 2.4 เมตร และปล้องของมันมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่สุด 4 เซนติเมตร มันอยู่ได้ค่อนข้างลึก บริเวณก้นทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิก และทนต่อความหนาแน่นของ Hydrogen sulfide ได้ดี

11.Caribbean Barrel Sponge

ฟองน้ำตัวนี้มีอายุได้มากถึง 100 ปี และสูงได้ถึง 6 ฟุต และมีเส้นผ่านศูนย์กลางได้ 6 ฟุตเช่นกัน

12.Lions Mane Jellyfish

หรือรู้จักกันในนาม hair jelly แมงกระพรุนพันธุ์นี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาแมงกระพรุนด้วยกันแล้ว ที่เคยค้นพบคือในปี 1870 นั้น มีขนาดตัวเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.3 เมตร และมีหนวดออกมายาวถึง 37 เมตรเลยทีเดียว

13.Whale shark (ฉลามวาฬ)

ฉลามวาฬเป็นปลาที่เชื่องช้ามาก มีขนาดยาวมากสุดอยู่ที่ 12.65 เมตร และหนักราว 21.5 ตัน

14.Giant Sea Star

ปลาดาวพันธุ์นี้อาศัยอยู่แถบชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่แคลิฟอร์เนีย จนถึง บริทิช โคลัมเบีย มันโตได้มากถึงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 61 เซนติเมตรเลยทีเดียว

15.Japanese Spider Crab

ถือเป็น arthropod ที่มีขางอกออกมายาวที่สุดแล้ว ยาวได้มากถึง 3.8 เมตร ส่วนตัวนั้นใหญ่ได้ถึง 40 เซนติเมตร และน้ำหนักรวมอยู่ที่ 19 กิโลกรัม

16.Portuguese Man-Of-War

หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่ามันคือแมงกะพรุน แต่จริงๆ แล้วมันคือ siphonophore ถึงแม้ว่าตัวของมันจะยาวแค่ 30 เซนติเมตร และกว้าง 5 เซนติเมตร แต่หนวดของมันยาวได้มากสุด 50 เมตรเลยทีเดียว

17.Great White Shark

เป็นที่รู้จักกันดีในความใหญ่และความดุร้ายของมัน มันยาวได้มากสุด 6.4 เมตร หนัก 3,324 กิโลกรัม อายุของมันยาวนานถึง 70 ปี และสามารถว่ายน้ำได้ไวถึง 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

18.Giant Clam

เป็นสัตว์ทะเลจำพวกหอยที่ใหญ่ที่สุดแล้ว มันสามารถมีลำตัวยาวมากสุด 1.2 เมตร หนัก 227 กิโลกรัม และเมื่อมันหาที่ยึดกับปะการังได้แล้ว มันจะไม่ไปไหนเลยตลอดชีวิตของมัน!

ที่มา : kiitdoo

10 อันดับ ปลาใกล้สูญพันธุ์

วันนี้ผมได้นำเกร็ดความรู้ มาฝากเช่นเคยครับ ซึ่งว่าด้วยเรื่องการจัดลำดับปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ 10 แรก ติดตามกันได้เลย ^______________^

10.ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) สัญลักษณ์ของปลาใกล้สูญพันธุ์
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่เป็นสัญลักษณ์ของปลาใกล้สูญพันธุ์นี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนมากของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มันเป็นหนึ่งในปลาที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งสามารถโตได้กว่า 3 เมตร และหนักกว่า 635 กก. ปลาทูน่าครีบน้ำเงินนั้นเป็นนักสู้ไม่ยอมแพ้ และเพราะเหตุผลนี้เอง มันถึงเป็นที่นิยมของนักจับปลาสมัครเล่นและมีราคาถึง 3 ล้านบาท ซึ่งมันก็เป็นรางวัลล้ำค่าสำหรับชาวประมงอีกด้วย ปลาทูน่าครีบน้ำเงินนั้นถูกล่าเกินปริมาณอย่างหนัก และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ถ้าปราศจากการเข้าแทรกแทรงโดยทันทีแล้ว เจ้าปลาโตช้าและเข้าสู้วัยผสมพันธุ์ช้าสปีชีส์นี้จะสูญพันธุ์อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม การวางข้อบังคับนั้นก็เป็นอะไรที่จัดการยากเพราะปลาทูน่าครีบน้ำเงินนั้นอพยพระยะทางยาวเป็นพันๆ กิโลเมตรข้ามหาสมุทร และความพยายามที่จะอนุรักษ์มันไว้ถึงขณะนี่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด ปลาทูน่าครีบน้ำเงินถูกเลือกให้เป็นปลา ใกล้สูญพันธุ์

9.ปลากระเบนมัสทีส (Maltese Ray) พบได้ที่ช่องแคบซิซิลีเท่านั้น
ในอดีต ปลากระเบนมัลทีสนั้นสามารถพบได้ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแถบชายฝั่งของอิตาลี,อัลจิเรีย,มัลตาและตูนีเซีย แต่ในปัจจุบันมันสามารถพบได้ในที่ๆ มีการจับปลาอย่างมากที่ช่องแคบซิซิลี ซึ่งเป็นช่องแคบที่กว้าง 145 กม.ตั้งอยู่ระหว่างอีตาลีและตูนีเซียเท่านั้นถึงแม้ว่าปลากระเบนมัลทีสจะไม่เป็นที่รู้จัก มันก็มีลักษณะที่เหมือนปลากระเบนทั่วไป คือ เติบโตและเข้าสู้วัยผสมพันธุ์ช้า และออกลูกจำนวนน้อย ปลากระเบนมัลสิสอาจจะไม่ใช่เป้าหมายของการจับปลาแถบนั้น แต่มันมักจะโดนจับติดไปด้วยจากการจับปลาสปีชีส์อื่น เมื่อเจ้าปลาที่ไม่มีใครต้องการนี้ถูกจับ มันก็จะโดน โยนลงกลับทะเลในสภาพที่ตายแล้วหรือกำลังตาย การลดจำนวนลงปลาสปีชีส์นี้และการตอบสนองที่ช้าของรัฐบาลทำให้ปลากระเบนมัลทีสได้รับเป็น ปลาใกล้สูญพันธุ์

8.ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์ (Goliath Grouper) โดนห้ามไม่ให้จับ
ปลากรุ๊ปเปอร์ทุกสปีชีส์นั้นใกล้สูญพันธุ์เหมือนกันหมด แต่ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์เป็นสปีชีส์ที่อยู่ในอันตรายด้วยเหตุผลต่างอกกไป รู้จักกันในอีกชื่อว่า ปลายิว ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์นั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เขตร้อนของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันอกก (จากบาจา,แคลิฟอร์เนียไปถึงเปรู) และ ในมหาสมุทรแอตแลนติก (จากนอร์ทแคโรไลน่าไปถึงบราซิล) ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์มีขนาดยักษ์ตามชื่อ ซึ่งมันสามารถยาวได้ถึง 2.1 เมตร และมีอายุขัยได้ถึง 40 ปี การจับปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์เกินปริมาณนี้สร้างปัญหาให้มัน 2 ปัญหา คือ มันแพร่พันธุ์ได้ในช่วงสั้นๆ ซึ่งส่งผลให้จำนวนลูกปลามีน้อยเมื่อเทียบกับสปีชีส์อื่น และ ลูกปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์มักจะติดมากับการลากอวนจับปลา ส่วนที่เหลือนั้นก็โดนจับเรือเล็ก เนื่องจากปัญหาที่ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์กำลังเผชิญ สหรัฐอเมริกาได้ช่วยอนุุรักษ์ไว้โดยการแบนการจักพวกนั้น

7.ปลาไหลยุโรป (European Eel) วงจรชีวิตแปลกประหลาดโดนทำลายจากการจับปลา
พบได้หลักๆ ในแอตแลนติกเหนือและทะเลบัลติกกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปลาไหลยุโรปนั้นพบกับปัญหาเฉพาะตัวเพราะมันมีวงจรชีวิตที่น่าสนใจ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเกิดมาในทะเลและว่ายน้ำเข้ามามีชีวิตเรือยๆ ในแม่น้ำที่ห่างจากทะเลเป็นพันๆ กิโลเมตรจนมันมีความยาวถึง 4.5 เมตร เมื่อเวลาที่ปลาไหลยุโรปเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ ซึ่งก็คืออายุ 6-30 ปี มันก็จะกลับลงไปในทะเลเพื่อผสมพันธุ์และออกไข่ ถ้าเส้นทางการผสมพันธุ์ ออกไข่ แล้วก็ตาย เมื่อได้ฟังอย่างนี้แล้ว คุณก็คงนึกว่า แล้วมันไม่ดีตรงไหน สิ่งที่ไม่ดีก็คือ ถ้าเส้นทางผสมพันธุ์ของปลาไหลยุโรปถูกขวางแล้ว ตัวที่ถูกจับได้ในทะเลนั้นก็จะเป็นแต่ตัวลูก ซึ่งการจับปลาเกินปริมาณนี้ส่งผลให้ประชากรของมันลดลงอย่างมหาศาลและทำให้มันได้รับสถานะเป็น ปลาใกล้สูญพันธุ์

6.ปลาหินโบแค๊กซิโอ (Bocaccio Rockfish) ปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในแถบตะวันตก
ในหมู่ปลาหินจำนวน 70 สปีชีส์ที่อาศัยอยู่ในชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ปลาหินโบแค็กซิโอนั้นเป็นสปีชีส์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดถึงแม้ว่ามันจะเข้าสู่วัยผสมพันธุ์เร็วกว่าปลาที่โดนจับมากเกินปริมาณหลายสปีชีส์ ตัวอ่อนของมันก็มีโอกาสอดตายต่ำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของกาอาศและกระแสน้ำทะเลตั้งแต่ปี 1970s(2513+) นั้นทำให้ตัวอ่อนของปลาหินโบแค็กซิโอโตมาเป็นลูกปลาทุกๆ 20 ปี เท่านั้น เพื่อการอนุรักษ์ปลาหินแค็กซิโอไว้ สหรัฐอเมริกาได้ปิดการจับปลาในชายฝั่งตะวันตก แต่ถึงแม้ว่าการจับปลาในที่ๆ ปลาหินแค็กซิโออาศัยอยู่จะหมดไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อได้ว่ามันต้องใช้เวลาถึง 100 ปี ในการฟื้นฟูประชากรเพราะระยะเวลาแสนยาวนานในการฟื้นตัวนี้ ปลาหินแค็กซิโอจังได้รับเป็น ปลา ใกล้สูญพันธุ์

5.ปลาสเก็ตฤดูหนาว (Winter Skate) อาหารปลาที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างมาก
ปลาสเก็ตฤดูหนาวเป็นปลาน่าทึ่งที่รู้จักไล่และช็อตผู้ล่าไปด้วยกระแสไฟฟ้า ส่วนมากอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากอ่าวเซ้นท์ ลอว์เรนซ์ในประเทศแคนาดาไปถึงรัฐนอร์ท แคโรไลน่าของสหรัฐอเมริกา ปลาสเก็ตฤดูหนาวถูกเรียกว่า ปลาขยะ ในอดีต แต่ในปัจจุบัน มันถูกจับเพื่อนำมาแปรรูปเป็นอาหารปลาและเหยื่อตกล๊อบส์เตอร์ หรือแม้กระทั่งอาหารของคน การลาอวนจับปลาสเก็ตฤดูหนาวได้ทำให้เกิดการจับปลาโดยความผิดพลาดเพราะตัวเล็กและมีจำนวนมากกว่า ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ การลดจำนวนลงอย่างฮวบฮาบของปลาที่เข้าสู่วัยผสมพันธุ์ช้าและออกลูกน้อย
ผู้เชี่ยวชาญได้โทษการจับลูกปลาสำหรับการลดจำนวนถึง 90% ของประชากรตัวเต็มวัย

4.Orange roughy ซวยเพราะอายุนานถึง 149 ปี
รู้จักกันในนาม หัวเมือก สามารถพบได้ในหลายพื้นที่ ทั้งชายฝั่งนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย นามิเบียและมหาสมุทรแอตแลนติกตะวันออกเฉียงเหนือ มันเป็นปลาที่มีอายุขัยถึง 149 ปี และเข้าสู้วัยผสมพันธุ์เมื่ออายุ 20-30 ปี ซึ่งการเติบโตช้านี้ทำให้มันอ่อนแอต่อการจับปลาเกินปริมาณอย่างมาก และการจับปลาเกินปริมาณนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้มันรอดพ้นจากการสูญพันธุ์เลยเมื่่อชาวประมงมักจะจับมันในฤดผสมพันธุ์ ซึ่งผลที่ตามมาคือจำนวนลดลงอย่างมากในเวลา 25 ปีของการจับ

3.ปลาแดงอเคเดียน (Acadian Redfish) การผสมพันธุ์ลดลงจากการลากอวน
เจ้าปลาสปีชีส์ของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือนี้สามารถโตได้ถึง 50.8 ซม. และมีอายุขัยถึง 50 ปี ปลาแดงอเคเดียนนั้นก้เหมือนปลาที่โดนจับเกินปริมาณส่วนใหญ่ที่เติบโตและเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ช้า ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8-9 ปี การจับปลาแดงอเคเดียนอย่างหนักในทศวรรษที่ผ่านมานั้นทำให้มันมีจำนวนนิดเดียวนับตั้งแต่ที่มันเริ่มถูกจับในปี 1930s (2473+) และที่แย่กว่านั้นก็คือ ปลาแดงอเคเดียนยังโดนจับจากนักจับปลาผิดกฏหมายอีกอ้วย

2.ปลาสเตอเจี้ยนขาว (Beluga Sturgeon) โดนล่าเพราะไข่ล้ำค่า
ปลาสเตอเจี้ยนขาวนั้นโด่งดังในเรื่องของเนื้อและไข่ของมันที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ คาเวียร์ของแท้ เจ้าปลาโบราณตัวนี้มีถิ่นกำเนิดในทะเลแคสเปี้ยน มันสามารถโตได้ถึง 4.6 เมตร หนักกว่า 1 ตัน และมีอายุขัยถึง 100 ปี เพราะความนิยมในคาเวียร์ ปลาสเตอเจี้ยนขาวนั้นได้ถูกจับปลากฃเกินปริมาณอย่างหนักด้วยแห ซึ่งเป็นหัญหาสำหรับมันมากเพราะเจ้าปลาสปีชีส์จะไม่เข้าสู้วัยผสมพันธุ์จนกว่าจะอายุ 20-25 ปี นอกการจับปลาเกินปริมาณแล้ว ปลาสเตอเจี้ยนขาวยังถูกคุกคามจากถิ่นที่อยู่ที่ลดลง ซึ่งพื้นที่ผสมพันธุ์ตั้งแต่โบราณของมันนั้นได้หายไปถึง 90% ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ปลาสเตอเจี้ยนขาวนั้นได้รับสถานะ ใกล้สูญพันธุ์

1.ปลาฮาลิบัตแอตแลนติก (Atlantic Halibut) เหยื่อที่เป็นของแถม
พบได้ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกนั้นคือปลาตัวแบนสปีชีส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันมีอายุขัยถึง 50 ปี ยาวได้ถึง 2.7 เมตร และหนักถึง 45 กก. ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกนั้นเข้าสู่วัยผสมพันธุ์เมื่ออายุ 10-14 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่ช้ามากและทำให้มันอ่อนแอต่อการจับปลาเกินปริมาณ ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกนั้นโดนจับโดยทั้งเบ็ดและเป็นของแถมจากการลากแห่ใต้พื้นสมุทร IUCN นั้นให้สถานะ ใกล้สูญพันธุ์ แก่ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกและคาดหวังของการเพิ่มจำนวนในอนาคตของมันนั้นก็ต่ำเหลือเกิน ซึ่งทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาแบนการจับพวกมัน

ที่มา : thaigogenius.com

10 อันดับ สัตว์ที่อายุยืนที่สุดในโลก

วันนี้ผมได้นำเกร็ดความรู้ มาฝากเช่นเคยครับ ซึ่งว่าด้วยเรื่องการจัดลำดับสัตว์น้ำที่อายุยืนที่สุด 10 แรก ติดตามกันได้เลย ^______________^

อันดับ 10: กุ้งมังกร Lobster
อายุขัย: 140 ปี

กุ้ง มังกรเป็นสัตว์เศรษฐกิจอาหารทะเลส่งออกที่โดยทั่วโลก จัดเป็นอาหารมีราคาสูง ในบรรดากุ้งมังกรด้วยกันดูเหมือนว่า จอร์จ จะถูกพูดถึงมากที่สุด จอร์จถูกจับขึ้นมาจากชายฝั่งนิวฟาวแลนด์ในเดือนธันวาคม ปี 2008 และถูกนำไปขายยังภัตตาคารอาหารทะเลด้วยราคา 100 เหรียญ แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ยักษ์ของมัน ทางภัตตาคารจึงตัดสินใจไม่นำมันมาปรุงเป็นอาหาร แต่ปล่อยมันไว้ในตู้ให้ลูกค้าดูและถ่ายรูปเล่น ซึ่งสิบวันต่อมา ลูกค้าจำนวนหนึ่งได้แจ้งไปยังศูนย์คุ้มครองสัตว์เพื่อทำเรื่องขอให้ปล่อย จอร์จกลับทะเล ซึ่งในตอนแรกทางภัตตาคารไม่ยอม แต่ในที่สุดแล้วเจ้าของภัตตาคารก็ใจอ่อนยอมปล่อยมันไป ซึ่งมันถูกปล่อยในเขตคุ้มครองสัตว์น้ำเพื่อไม่ให้ใครจับมันได้อีก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าจอร์จน่าจะเกิดราวปี 1869 รวมอายุได้ 140 ปี

อันดับ 9:หอยกูอี้ดั๊ก Geoduck
อายุขัย: 160 ปี

ด้วย หน้าตาอันเฉพาะตัวของมัน คนไทยจึงนิยมเรียกมันว่า "หอยจู๋" แต่แท้จริงแล้วมันคือหอยกูอี้ดั๊ก อย่างไรก็ดี duck ตัวนี้ไม่ได้แปลว่า เป็ด แต่แปลว่า ขุด ซึ่งคำนี้มาจากภาษาพื้นเมืองอเมริกัน แปลว่า ขุดลึก ทั้งนี้เพราะตามธรรมชาติ หอยชนิดนี้มันจะอยู่ในทรายที่น้ำท่วม ถึงตามริมฝั่ง โดยฝังตัวลงไปในทราย ยิ่งโตก็ยิ่งขุดลึกลง และยืดงวงขึ้นมาบนผิว ด้วยอายุขัยถึง 160 ปี มันจึงเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง

อันดับ 8: หนอนท่อ Lamellibrachia
อายุขัย: 170 ปี

หนอน ท่อที่มีรูปทรงละม้ายคล้ายดอกไม้ปลอมนี้ อาศัยอยู่ในทะเลลึกและพึ่งพาแบคทีเรียสายพันธุ์หนึ่งในการผลิตอาหารดำรง ชีวิต แม้ดูว่ามันจะทำอะไรไม่ได้มากมาย แต่เจ้าหนอนท่อสายพันธุ์นี้มีความยาวได้ถึง 3 เมตร และมีอายุมากได้ถึง 170 ปี เลยทีเดียว

อันดับ 7: เต่าเรเดียต้า Radiated Tortoise
อายุขัย: 180 ปี

อย่าง ที่ทราบกันดีว่าเต่านั้นเป็นสัตว์ที่มีอายุยืน และในบรรดาเต่าด้วยกันนั้น เต่าเรเดียต้านั้นมีอายุยืนที่สุด เต่าเรเดียต้านั้นจัดเป็นเต่าบกที่มีสัสันและลวดลายสวยงามมาก มันมีถิ่นกำเนิดที่มาดากัสก้า อัฟริกา และด้วยสีสันอันสวยงามของมัน มนุษย์จึงนิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เต่าเรเดียต้าที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นชื่อว่า ตูอิมาลิลา ซึ่งกัปตันคุกได้นำมันไปถวายกษัตริย์แห่งตองกาเมื่อราวปี ค.ศ.1777 ตูอิมาลิลามีชีวิตอยู่เรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ.1965 ซึ่งหมายความว่ามันมีอายุไม่น้อยกว่า 188 ปี เลยทีเดียว

อันดับ 6: หอยเม่นแดง Red Sea Urchin

อายุขัย: 200 ปี

หอย เม่นแดงนี้พบได้ในมหาสมุทรแปซิฟิค อาศัยอยู่ตามโขดหินใต้ทะเลที่ความลึก 90 เมตร ไม่ค่อยมีศัตรูทางธรรมชาติเท่าใดนัก สภาวะทางธรรมชาติของมันเอื้อให้มันมีชีวิตยืนยาวเนื่องจากการเจริญเติบโต ต่างๆ ของมันแทบจะหยุดชงักลงเมื่อมันอายุได้ 10 ปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่ามันสามารถอายุยืนได้ถึง 200 ปีเลยทีเดียว

อันดับ 5:วาฬ Bowhead Whale

อายุขัย: 210 ปี

วาฬ พันธุ์นี้ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุยืนที่สุดในโลก นอกจากนี้แล้วมันยังได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีปากกว้างที่สุดในโลกด้วย แม้ช่วงอายุจะยืนยาวถึง 210 ก็ตาม แต่มันมีประชากรเพียง 24,900 ตัวทั่วโลกเท่านั้น ทั้งนั้นทั้งนี้มาจากการล่าของมนุษย์นั่นเอง

อันดับ 4: ปลาคาร์ฟ Koi-โคอิ

อายุขัย:220 ปี

ปลา คาร์ฟสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นจากปลาคาร์ฟญี่ปุ่น ตามความเชื่อแล้วปลาโคอินั้นเป็นสัญลักษณ์ของ ความรัก และ มิตรภาพ ซึ่งปลาโคอิที่มีชื่อเสียงสุดนี้ได้แก่ "ฮานาโกะ" ที่มีอายุยืนยาวถึง 226 ปี ฮานาโกะเกิดเมื่อปี 1751 และอยู่มาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 1977

อันดับ 3: หอยทะเล Arctica islandica

อายุขัย: 410 ปี

หอย ทะเลพันธุ์นี้ เราสามารถหาได้ไม่ยากในภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น ด้วยความที่มันเป็นอาหารยอดนิยม หลายคนจึงไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะมีอายุยืนยาวอะไรมากมาย แต่ผลการวิจัยสรุปออกมาว่ามันสามารถมีอายุยืนได้ถึง 410 ปีเลยทีเดียว

อันดับ 2: ฟองน้ำ Cinachyra antarctica

อายุขัย: 1,550 ปี

ฟองน้ำ ทะเลสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่ที่มหาสมุทรแอนตาร์คติกในความลึกหลายร้อยเมตร มันมีอัตราในการเติบโตที่ช้ามากๆ จากการตรวจวิจัยพบว่ามันมีอายุขัยได้ถึง 1,550 เลยทีเดียว

อันดับ 1: แมงกระพรุน Turritopsis nutricula

อายุขัย: อมตะ

Turritopsis nutricula เป็นแมงกระพรุนที่มีวงจรชีวิตแปลกประหลาดมาก คือ หลังจากที่ย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้ว มันก็จะเติบโตแบบถดถอยกลับสู่วัยเด็กอีกครั้ง ซึ่งหลังจากเป็นเด็กได้สมบูรณ์แล้วมันก็จะเติบโตใหม่และก็กลับเป็นเด็กใหม่ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งสรุปได้ว่า ช่วงชีวิตของมันเป็น...อมตะ ทำลายสถิติ สัตว์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก ทุกสถาบัน

ที่มา : varietyl.teenee

10 อันดับ ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก

วันนี้ผมได้นำเกร็ดความรู้ มาฝากเช่นเคยครับ ซึ่งว่าด้วยเรื่องการจัดลำดับปลาที่น่ากลัวที่สุด 10 แรก ติดตามกันได้เลย ^______________^

อันดับที่ 10 Great white shark

ฉลามขาวยังคงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ยังคงหวาดกลัวมันจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเรา

สามารถพบเห็นมันตามแถบทะเลชายฝั่งเกือบทั่วทุกมุมโลก ด้วยขนาดตัวที่ค่อน

ข้างใหญ่ และมีความยาวประมาณ 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 2250 กิโลกรัม

ปลาฉลามขาวเป็นสัตว์กินเนื้อ เหยื่อที่มันเลือกจะล่ามีปลา (รวมทั้งปลากระเบนและ

ฉลามที่ตัวเล็กกว่า) ปลาโลมา แมวน้ำ สิงโตทะเล เต่าทะเล และเต่าตะหนุ ทั้งยังมีชื่อ ในเรื่องกินไม่เลือก แม้กระทั่งของที่กินไม่ได้อย่างกระป๋อง ทุ่มลอยน้ำ และฉลามขาว มีจมูกที่ไวต่อกลิ่นเลือดเป็นอย่างมาก เพราะฉลามขาวสามารถได้กลิ่นเลือดเพียง 1 หยดที่อยู่ไกลออกไปถึง 3 กิโลเมตรได้

อันดับ 9 Frilled shark

Frilled shark เป็นฉลามในสกุล Chlamydoselachus มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์
ว่า Chlamydoselachus anguineus เดิมคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่มีรายงานพบใน หลายพื้นที่ รวมถึงในเขตน่านน้ำญี่ปุ่น ทำให้กลายเป็น “ฟอสซิลมีชีวิต” อีกชนิดหนึ่ง ที่ยังคงมีชีวิตเหลือรอดในยุคครีเทเชียส จนกระทั่งปัจจุบัน หน้าตาของฉลามชนิดนี้แตกต่างจากฉลามที่เรารู้จักกันทั่วไป เพราะคล้ายกับปลาไหล สีน้ำตาลหรือสีเทามากกว่า แต่การมีช่องเหงือก 6 คู่ เป็นจุดที่ยืนยันว่ามันคือฉลาม ตัวเต็มวัยยาวได้ถึง 6.5 ฟุต ส่วนตัวที่พบล่าสุดยาว 5.3 ฟุต

อันดับที่ 8 Wolf Fish

ปลาหมาป่าหรือหมาป่าทะเล โดยมักอาศัยหลบ ซ่อนตามโขดหินปลาหมาป่าเป็นปลาที่มีหัวค่อนข้างใหญ่ มีปากขนาดใหญ่และฟัน แหลมคม ฟันนี้ใช้สำหรับแทะเพื่อกินเม่นทะเลเป็นอาหาร (สัตว์น้ำจำพวกที่มีเปลือก เป็นอาหารหลักของมัน) พวกมันสามารถมีขนาดใหญ่ถึง 20 กิโลกรัม และสามารถยาว ถึง 150 เซนติเมตร

อันดับที่ 7 Goliath Tigerfish

ปลา Tiger Fish เป็นปลาน้ำจืดกลุ่ม Characin(กลุ่มเดียวกับปิรันย่า) ที่มีขนาดใหญ่ มักอาศัยใน แม่น้ำ Lualaba และทะเลสาป Tanganyika ประเทศคองโก ขนาดใหญ่สุด มี น้ำหนักถึง 80 ปอนด์ ที่เรียกว่า “ปลาเสือ” ก็เพราะ ก็อันเนื่องมาจากข้อมูลพฤติกรรม ของมันที่เป็นนักล่ามาแต่กำเนิด บวกกับเขี้ยวของมันและด้วยรูปร่างของมันคล้าย ตอร์ปิโด

อันดับที่ 6 cookiecutter shark

ฉลามคุกกี้คัตเตอร์ หรือ cigar shark ชื่อออกน่ารัก แต่นิสัยมันไม่น่ารักเลยนะ

มันเป็นปลาฉลามอีกพันธุ์ที่หายาก อาศัยน้ำลึก 500 ฟุต มีขนาดเล็กขนาดเท่าซิการ์ เท่านั้น แต่พิษสงมันเหลือร้ายทำให้มันล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างวาฬและโลมาเป็น อาหารได้สบายๆ โดยฉลามคุกกี้คัตเตอร์นั้นมีเทคนิคซุ่มโจมตีที่ใช้ประโยชน์จากการ เรืองแสงในตัวเหมือนกับผี

อันดับที่ 5 แฮคฟีช (hagfish)

แฮคฟีช (hagfish) รูปร่างเหมือนทากหรือปลิงแต่ความจริงแล้วเป็นปลา เป็นปลา ไม่มีขากรรไกรที่อาศัยอยู่ในทะเล โดยการกินปลาตาย หรือใกล้ตายรวมทั้งสัตว์ไม่ มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม กลุ่มหนอนปล้อง มอลลัสและครัสเตเชียน ดังนั้น แฮคพีช จึงไม่เป็นปาราสิต และไม่ได้เป็นสัตว์ล่าเหยื่อ แต่ค่อนมาทางกินซากสัตว์ มากว่า แฮคฟีชมีประมาณ 32 ชนิด ชนิดที่รู้จักกันดีในอเมริกาเหนือ ในมหาสมุทร แอตแลนติก

อันดับที่ 4 Basking Shark

ฉลามบาสกิ้น ความจริงยังมีฉลามอีกมากควรติดอันดับ เช่นฉลามยักษ์เมกาโลดอน

(Megalodon Sharkหรือฉลามเมกาเมาทธ์ (MegaMouth ) แต่ดูเหมือนว่าฉลาม บาสกิ้นจะดูโดดเด่นที่สุดในอันดับของเรา โดยฉลามชนิดนี้เป็นยักษ์ใหญ่ผู้ใจดีแห่ง ท้องทะเลใหญ่เป็นอันดับสองรองจากฉลามวาฬยาวประมาณ 12.27 เมตร หนักกว่า 19 ตัน มีรายงานการพบปลาขนาดใหญ่ที่นอร์เวย์วัดได้ยาว 12 เมตร มีปากขนาดใหญ่ แต่กินแพลงตอนเป็นอาหารโดยปากของมันจะเหมือนตัวกรองที่สามารถดูดน้ำเข้าปาก ได้ 2000 ตันต่อชั่วโมง

อันดับที่ 3 Blob Fish

ปลาบร็อบ ถูกพบในระดับความลึกที่มีแรงดันมากกว่าปกติ ถึง 12 เท่าทำให้ถุงลม

ขาดประสิทธิภาพ เพื่อที่ปลา สามารถลอยตัวได้ (ที่รู้จักกันในชื่อ "กระเพาะปลา"

มีหน้าที่ เก็บกักอากาศ หรือปล่อยอากาศออกเพื่อประโยชน์ในการลอยตัว หรือดำน้ำ) ปลาจึงมีเนื้อที่มีลักษณะเป็นวุ้น มีความหนาแน่น น้อยกว่าน้ำเล็กน้อย เพื่อให้สามารถ ลอยตัวเหนือพื้นทะเล โดยใช้พลังงานน้อยที่สุดในการลอยตัว และว่ายน้ำ จึงทำให้ ปลาบร็อบ ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อ และข้อดีอย่างแรกก็คือมันสามารถทิ้งตัวลงมา จับเหยื่อจากด้านบนจึงเป็นการดีกว่าจะเข้า จู่โจมจากด้านหน้าที่อาจจะได้รับอันตราย จากการที่เหยื่อต่อสู้

อันดับที่ 2 Lamprey

ปลาแลมเพรย์เป็นปลาไหลชนิดหนึ่ง ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและ

ครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะคล้าย

แว่นใช้สำหรับดูด ปากกลมซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ขึ้นมาบังคับ

ขากรรไกรให้อ้าและหุบแบบปัจจุบัน พวกมันต้องการเพียงปากที่มีตะขอสำหรับเกาะ

เหยื่อเพื่อดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร และดำรงชีพเป็นปรสิตเมื่อดูดเลือดของเหยื่อจน ตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่

อันดับที่ 1 Fanfin Seadevil

ปลาปีศาจ ครีบพัด (Fanfin Seadevil) หรือ Caulophryne jordani เป็น ปลาน้ำลึก ในตระกูล Anglerfish ปลาปลาปีศาจ ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) มีสี่งที่แปลก และ โดดเด่นกว่า ปลาในตระกูล Anglerfish ทั่วไปคือ พวกมันไม่มีหงอนเรืองแสงบนหัว ที่ใช้สำหรับล่อเหยื่อในที่มืด และทั่วทั้งร่างมีครีบยาว คล้ายพัด เช่นเดียวกับปลาใน ตระกูล Anglerfish เพศผู้มีขนาดเล็กกว่ามากเพศเมีย เพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาด เพียง 0.5 นิ้ว (1.27 เซ็นติเมตร) ส่วนเพศเมียจะมีขนาดใหญ่ได้ถึง 10 นิ้ว (25 เซ็นติเมตร ความยาวไม่รวมหนวด) การที่เพศผู้มีขนาดเล็ก และเพศเมีย มีขนาด ใหญ่นั้นเกิดจากอุปนิสัยที่ เมื่อตัวผู้พบ ตัวเมีย ตัวผู้จะเกาะติดตัวเมียด้วยปาก ทำตัว เหมือนกาฝาก โดยดูดเลือดของตัวเมียเป็นอาหาร และเมื่อนานวันตัวผู้จะศูนย์เสีย การมองเห็น และประสาทสัมผัสต่างไป และหลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวเมีย